ถ้าคุณคือธุรกิจที่ขายผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่าง คุณจะต้องเคยเจอกับสภาวะที่เรียกว่า “ขายดี” หรือ “ขายไม่ดี” อย่างแน่นอน สภาวะนั้นอาจจะเกิดจากปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น เทศกาล กระแส หรือ ความต้องการที่จะใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ กันขึ้นมาจริง ๆ ก็แล้วแต่
อย่างไรก็ตาม การที่ผลิตภัณฑ์ที่เราขายจะขายดีหรือขายไม่ได้ด้วยเหตุปัจจัยที่แปลผันกันไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าคุณผู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะขายผลิตภัณฑ์ไหนก็ตาม ทำใจไว้ได้เลยว่าจะต้องเจอกับสภาวะนี้แน่นอน ซึ่งนั่นก็จะมีทั้งช่วงเวลาที่ดี ดีมาก และแย่สุด ๆ แต่ไม่มีใครหยุดสิ่งนี้ได้ สิ่ง ๆ นั้นเรียกว่า “วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์”
บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวงจรนี้อย่างแท้จริง เพื่อที่คุณจะได้เตรียมใจ เตรียมการ หรือเตรียมตัวได้อย่างทันท่วงที เมื่อต้องเจอกับสภาวะต่าง ๆ ในวงจรนี้
“วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์” คือ ช่วงต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ในธุรกิจ ๆ หนึ่ง ที่เป็นเวลานับตั้งแต่ธุรกิจนั้นนำผลิตภัณฑ์หนึ่งเข้าสู่ตลาดจนกระทั่งสินค้านั้นออกจากตลาดไปนั่นเอง ซึ่งก็เริ่มตั้งแต่ช่วง…
• เปิดตัว
• เติบโต
• อิ่มตัว
• ถดถอย
คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า แต่ละช่วงของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ในช่วงเปิดตัวผลิตภัณฑ์นั้น การเติบโตของยอดขายจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ เรียกได้ว่าอาจจะเข้าเนื้อบ้างบางครั้งบางคราว เหตุผลก็เพราะว่าผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวเข้าสู่ตลาดจัดว่าเป็นของใหม่ ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก ซึ่งก็ทำให้ลูกค้ามักต้องใช้การพิจารณาก่อนซื้อมากพอสมควร
ในช่วงเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ ธุรกิจมักจะมีทางเลือกอยู่แค่ประมาณสองทางถ้วนในการทำกลยุทธ์ นั่นก็คือ...
1. การตั้งราคาที่สูงหน่อย และเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างแคบ เฉพาะกลุ่ม
2. การตั้งราคาที่ต่ำกว่าตลาด แต่วางกลุ่มเป้าหมายกว้างในระดับนึง
หากธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในด้านการทำให้เกิดความต้องการในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ หรือสินค้าได้รับความสนใจจนทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ก็จะเข้าสู่ช่วงของการเติบโต
ช่วงเติบโตนี้ แรก ๆ ยอดขายจะเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกว่าเริ่มมีกำไรนั่นเอง จากลูกค้าขาจรก็จะเริ่มมาเป็นขาประจำ เงินก็จะเริ่มไหลมาเป็นกอบเป็นกำ คุณจะทำตัวไม่ถูกกันเลยล่ะ แต่แล้วเดี๋ยวยอดขายก็จะเริ่มชะลอ
ถ้าจะให้อธิบายเป็นหนังชีวิตอ่ะนะ ก็คือช่วงแรกของการเติบโตยอดขายจะสูงที่สุด บางทีก็สูงเป็นทวีคูณเลย แต่พอความต้องการในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ สูงขึ้น การแข่งขันก็มักจะสูงขึ้นเช่นกัน และมันก็จะทวีความรุนแรงขึ้นด้วย เนื่องจากคู่แข่งรายใหม่ ๆ ก็เริ่มที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเค้าเข้าสู่ตลาดในคุณสมบัติที่โดดเด่นหรือใหม่กว่าและในราคาที่แข่งขันได้ด้วย และในที่สุดผลิตภัณฑ์ของเราก็จะเข้าสู่การเติบโตในช่วงปลาย ซึ่งยอดขายก็จะเริ่มลดลง จนกระทั่งถ้าเริ่มทรง ๆ ไม่ขึ้น ไม่ลง ก็หมายความได้เลยว่า หมดอายุของผลิตภัณฑ์นั้นแล้ว
ช่วงอิ่มตัวหรือบางทีก็ยังเรียกได้ว่าเป็นช่วงเติบโตเต็มที่อยู่ก็ได้ ซึ่งในช่วงนี้การแข่งขันก็มักจะรุนแรงที่สุดอีกด้วย ลูกค้าใหม่ ๆ ก็จะเริ่มน้อยลงและหายากขึ้น ส่วนแบ่งทางการตลาดเองก็ลดลงเช่นกัน เพราะในระยะของการอิ่มตัวนี้จะมีคู่แข่งมากที่สุด ธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์อยู่ในช่วงนี้จึงมักที่จะเลือกรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า
แต่ก็ยังมีแง่ดีของช่วงอิ่มตัวอยู่บ้างคือ ธุรกิจไหนที่ยืนอยู่ในจุดนี้ได้นานหน่อย กำไรก็จะดีมาก เรียกได้ว่าดีที่สุดในทุกช่วงของวงจรเลยก็ได้ เพราะต้นทุนผลิตผันแปรจะลดลงอย่างมาก
ช่วงถดถอยคงแทบไม่ต้องอธิบายอะไรให้มาก หากแต่ถ้าคุณรู้ตัวแล้วว่าจะมีช่วงนี้เกิดขึ้นก็จะเตรียมการได้ทันนั่นเอง
เมื่อผลิตภัณฑ์เริ่มเข้าสู่ช่วงถดถอย นั่นหมายถึงว่าความต้องการของลูกค้าเริ่มลดลงเพราะว่าในส่วนใหญ่ของลูกค้าก็เริ่มมีผลิตภัณฑ์นั้นไว้ในครอบครองแล้วนั่นเอง และมิหนำซ้ำลูกค้ายังต้องการหาอะไรใหม่ ๆ เช่น นวัตกรรมใหม่ เป็นต้น
เมื่อกำไรเริ่มลดลง ธุรกิจก็จะประสบปัญหาความอยู่รอด แล้วถึงตอนนี้ก็ต้องมาตัดสินใจแล้วล่ะว่า...
จะไปต่อหรือถอนตัวออกจากตลาดดี
วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์นั้นเป็นชุดทฤษฎีที่มีมาอย่างยาวนาน เป็นเรื่องที่ไม่ว่าธุรกิจที่มีการขายผลิตภัณฑ์อะไรก็แล้วแต่ ต่างก็หลีกเลี่ยงวงจรนี้ไม่ได้ บางที... หากธุรกิจไหนไม่เคยประสบกับสภาวะในวงจรนี้ ก็อาจเรียกได้ว่า... “คุณไม่ได้กำลังทำธุรกิจอยู่” ก็เป็นได้
หากมีคำถามหรือข้อโต้แย้งสามารถคอมเมนต์แลกเปลี่ยนกันได้เลย หากชอบคอนเทนต์แบบนี้ฝากกดแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสนุกกับการทำธุรกิจแล้วเติบโตไปด้วยกัน
แหล่งที่มา : Business-to-you
บริษัทการตลาดออนไลน์ที่ดูแลคุณแบบครบรอบด้าน ช่วยธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วและคุ้มค่ากว่าที่เคย
©Copyright 2024 by The Spidery. All rights reserved Privacy Policy
