เมื่อลูกค้าแต่ละคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน ดังนั้นความต้องการของลูกค้าย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน ก่อนที่เราจะเริ่มต้นเขียนคอนเทนต์ขายเรียนรู้ลูกค้าของคุณก่อนว่าพวกเขา เป็นกลุ่มคนประมาณไหน มีปัญหาอะไรในชีวิต ต้องการอะไร มีข้อกังวลอะไรก่อนซื้อ และคาดหวังจะได้อะไรหลังซื้อ เป็นต้น แนะนำอ่านต่อ STP คืออะไร วิธีใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำตลาดพร้อมตัวอย่าง
เมื่อเราเข้าใจลูกค้าแล้ว เราก็จะรู้ว่าเราจะต้องสื่อสารอะไรด้วยการกลับมาดูที่ตัวสินค้าหรือบริการของคุณเองว่า มีคุณสมบัติอะไร และสิ่งเหล่านั้นให้ประโยชน์อะไร รวมทั้งความแตกต่างระหว่างสินค้าหรือบริการของคุณแตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ อย่างไร ทำไมลูกค้าถึงจะต้องเลือกคุณ
เนื่องจากสินค้าหรือบริการมีความซับซ้อนมากน้อยต่างกัน และเพียงตัวหนังสือก็ไม่สามารถทำให้ลูกค้าเข้าใจสิ่งที่เรากำลังสื่อสารได้ทั้งหมด หรือลองคิดถึงความกรอบของขนมที่ภาพธรรมดาสื่อสารออกมาไม่ได้ การรู้จักรูปแบบต่าง ๆ ของคอนเทนต์ช่วยให้เราเลือกรูปแบบในการสื่อสารได้เหมาะสมมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วคอนเทนต์สามารถสื่อสารออกมาได้ 4 รูปแบบ เช่น ตัวหนังสือ เสียง ภาพ วีดีโอ(ภาพและเสียง) แต่ในแต่ละรูปแบบก็สามารถผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ลงไปเพื่อให้คอนเทนต์ดูน่าสนใจมากขึ้น
ขอชี้แจงก่อนเลยว่าไม่ใช่ทุกส่วนประกอบที่จำเป็น แต่ใช้เพียงแค่หัวข้อที่ลูกค้าของคุณใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเท่านั้น
ไม่ว่าคอนเทนต์ของคุณจะเป็นรูปแบบไหน ในช่วงต้นของคอนเทนต์ควรมีสิ่งที่ทำให้ผู้คนหยุดดู อาจเป็นข้อมูลที่น่าตกใจ สิ่งที่คนฟังต้องการ ตัวอย่างเช่นการใช้หัวข้อ "ระวังการซื้ออสังหาของคุณในครั้งต่อไปให้ดี เพราะมันอาจทำให้คุณถังแตก" หรือ "มาเป็นเสือนอนกิน รายได้หลักแสนต่อเดือนด้วยการลงทุนในอสังหา" หัวข้อแบบนี้จะทำให้คนสนใจและอยากอ่านต่อ นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้รูปหรือช่วงเริ่มต้นของวีดีโอในการดึงดูดความสนใจ ขึ้นอยู่กับรูปแบบคอนเทนต์ของคุณ
การพูดถึงปัญหาของลูกค้านั้นจะทำให้ลูกค้าเชื่อว่าสินค้าหรือบริการของคุณจะไปช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้จริง เพราะการพูดถึงเท่ากับการที่เรารู้และเข้าใจถึงปัญหาของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ร้านให้บริการสักคิ้ว เสริมความงาม พูดถึงปัญหาของลูกค้าว่า "คุณเหนื่อยกับการเขียนคิ้วทุกวันก่อนไปทำงานหรือเปล่า" ทั้งนี้ปัญหาอาจจะเป็นได้ทั้งในทางเหตุผลและอารมณ์ของลูกค้า
สิ่งนี้คงขาดไม่ได้คุณคงรู้อยู่แล้ว บอกไปเลยว่าสินค้าหรือบริการของคุณดีอย่างไร ทำไมพวกเขาถึงต้องซื้อมัน ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มีคุณสมบัติหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ประโยชน์ทำให้คุณสามารถดูหนัง หรือเล่นเกมได้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น
สินค้าหรือบริการบางชนิดจำเป็นต้องมีความน่าเชื่อถือ ก่อนที่ลูกค้าจะกล้าตัดสินใจจ่ายเงินให้กับเรา เราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้หลายวีธี ตัวอย่างเช่น การนำรีวิวจากลูกค้ามาพูดถึง, การอ้างอิงบุคคลหรือองค์กรที่เป็นที่่รู้จัก, การรับประกัน หรือสิทธิในการเปลี่ยนหรือคืนเงิน
สำหรับลูกค้า สินค้าหรือบริการบางชนิดจำเป็นต้องมีผลลัพธ์มาเป็นสิ่งยืนยันว่าสินค้าหรือบริการนั้น ๆ จะทำหน้าที่ของมันให้บรรลุได้จริง ๆ ตัวอย่างเช่น อาหารเสริมช่วยลดน้ำหนักบางแบรนด์นำลูกค้าที่ทานอาหารเสริมมาเป็นเครื่องยืนยันว่าสินค้าของพวกเขาทำได้อย่างที่กล่าวมา
บางสินค้าหรือบริการลูกค้ามักจะติดสินใจนาน โดยเฉพาะสินค้าราคาสูง ๆ เราจึงควรที่จะให้เหตุผลกับลูกค้าให้ตัดสินใจโดยทันที ก่อนที่พวกเขาจะไปหาข้อมูลของเจ้าอื่น ทำให้เรามีโอกาสที่จะเสียลูกค้าไปในที่สุด ตัวอย่างเช่น สินค้ามีจำนวนจำกัด หรือ โปรโมชั่นสำหรับ 50 ท่านแรกเท่านั้น เป็นต้น แนะนำอ่านต่อ หลักการทําโปรโมชั่นช่วยเพิ่มยอดขาย(พร้อม 12 ตัวอย่าง)
เรามั่นใจว่าสินค้าหรือบริการเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างแน่นอน บอกกับลูกค้าให้พวกเขาตระหนักว่าถ้าพวกเขายังปล่อยให้ปัญหาพวกนั้นอยู่ต่อไป จะส่งผลร้ายมากน้อยเพียงใดต่อพวกเขา และในทางกลับกัน เมื่อพวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการเราแล้ว ชีวิตเขาจะดีขึ้นมากน้อยเพียงใด รวมทั้งการเลือกเจ้าอื่นแทนที่จะเลือกเรา
สุดท้ายนี้อย่าลืมบอกสิ่งที่คุณต้องการให้พวกเขาทำ หลังจากที่คุณพยายามโน้มนาวพวกเขาด้วยเหตุผลและอารมณ์ ยกตัวอย่างเช่น สั่งซื้อ, ลงทะเบียน, สั่งจอง, ติดต่อ หรือทักแชท ทั้งนี้อย่าลืมแจ้งวิธีการชำระเงิน หรือวิธีการลงทะเบียน ขึ้นอยู่กับคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไร หากวิธีการนั้น ๆ ค่อนข้างยากหรือซับซ้อน มันก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าหนีได้
การสื่อสารที่ดีเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้คุณสามารถสร้างยอดขายได้ อย่าลืมมองหาปัญหาหรือข้อผิดพลาดในปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน หากชอบคอนเทนต์แบบนี้ฝากกดแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสนุกกับการทำธุรกิจแล้วเติบโตไปด้วยกัน
©Copyright 2024 by The Spidery. All rights reserved Privacy Policy