เขียนคอนเทนต์ขายของยังไงให้ยอดขายพุ่ง

October 4, 2021
The Spidery
Team Member
เลือกอ่านตามหัวข้อย่อย

รู้จักกับ The Spidery ทีมการตลาดออนไลน์

เรามุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ วัดผลได้
เราวัดผลกิจกรรมทางการตลาดที่นำมาซึ่งยอดขายและผลตอบแทนจากการลงทุน
ดูแลครบจบทุกองค์ประกอบการตลาด
ประหยัดเวลาของคุณได้มากขึ้น เราดูแลทั้งกระบวนการการตลาด นำเสนอแผนที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณมากที่สุด
ราคาเท่ากับจ้างพนักงาน เริ่มต้น 9000฿
แต่คุณจะได้ทีมงานคุณภาพมากประสบการณ์ไปทั้งทีม และไม่ต้องห่วงเราทำงานเพื่อผลลัพธ์เหมือนพนักงานในบริษัทคุณ
แชร์

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเขียนคอนเทนต์ขาย

1. รู้จักลูกค้าของคุณ

เมื่อลูกค้าแต่ละคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน ดังนั้นความต้องการของลูกค้าย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน ก่อนที่เราจะเริ่มต้นเขียนคอนเทนต์ขายเรียนรู้ลูกค้าของคุณก่อนว่าพวกเขา เป็นกลุ่มคนประมาณไหน มีปัญหาอะไรในชีวิต ต้องการอะไร มีข้อกังวลอะไรก่อนซื้อ และคาดหวังจะได้อะไรหลังซื้อ เป็นต้น แนะนำอ่านต่อ STP คืออะไร วิธีใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำตลาดพร้อมตัวอย่าง

2. รู้จักสินค้าหรือบริการของคุณ

เมื่อเราเข้าใจลูกค้าแล้ว เราก็จะรู้ว่าเราจะต้องสื่อสารอะไรด้วยการกลับมาดูที่ตัวสินค้าหรือบริการของคุณเองว่า มีคุณสมบัติอะไร และสิ่งเหล่านั้นให้ประโยชน์อะไร รวมทั้งความแตกต่างระหว่างสินค้าหรือบริการของคุณแตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ อย่างไร ทำไมลูกค้าถึงจะต้องเลือกคุณ

3. รู้จักรูปแบบของคอนเทนต์

เนื่องจากสินค้าหรือบริการมีความซับซ้อนมากน้อยต่างกัน และเพียงตัวหนังสือก็ไม่สามารถทำให้ลูกค้าเข้าใจสิ่งที่เรากำลังสื่อสารได้ทั้งหมด หรือลองคิดถึงความกรอบของขนมที่ภาพธรรมดาสื่อสารออกมาไม่ได้ การรู้จักรูปแบบต่าง ๆ ของคอนเทนต์ช่วยให้เราเลือกรูปแบบในการสื่อสารได้เหมาะสมมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วคอนเทนต์สามารถสื่อสารออกมาได้ 4 รูปแบบ เช่น ตัวหนังสือ เสียง ภาพ วีดีโอ(ภาพและเสียง) แต่ในแต่ละรูปแบบก็สามารถผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ลงไปเพื่อให้คอนเทนต์ดูน่าสนใจมากขึ้น

ส่วนประกอบที่ควรมีในคอนเทนต์ขาย

ขอชี้แจงก่อนเลยว่าไม่ใช่ทุกส่วนประกอบที่จำเป็น แต่ใช้เพียงแค่หัวข้อที่ลูกค้าของคุณใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเท่านั้น

1. สิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนหยุดดูคอนเทนต์ของเรา

ไม่ว่าคอนเทนต์ของคุณจะเป็นรูปแบบไหน ในช่วงต้นของคอนเทนต์ควรมีสิ่งที่ทำให้ผู้คนหยุดดู อาจเป็นข้อมูลที่น่าตกใจ สิ่งที่คนฟังต้องการ ตัวอย่างเช่นการใช้หัวข้อ "ระวังการซื้ออสังหาของคุณในครั้งต่อไปให้ดี เพราะมันอาจทำให้คุณถังแตก" หรือ "มาเป็นเสือนอนกิน รายได้หลักแสนต่อเดือนด้วยการลงทุนในอสังหา" หัวข้อแบบนี้จะทำให้คนสนใจและอยากอ่านต่อ นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้รูปหรือช่วงเริ่มต้นของวีดีโอในการดึงดูดความสนใจ ขึ้นอยู่กับรูปแบบคอนเทนต์ของคุณ

2. พูดถึงปัญหาของลูกค้า

การพูดถึงปัญหาของลูกค้านั้นจะทำให้ลูกค้าเชื่อว่าสินค้าหรือบริการของคุณจะไปช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้จริง เพราะการพูดถึงเท่ากับการที่เรารู้และเข้าใจถึงปัญหาของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ร้านให้บริการสักคิ้ว เสริมความงาม พูดถึงปัญหาของลูกค้าว่า "คุณเหนื่อยกับการเขียนคิ้วทุกวันก่อนไปทำงานหรือเปล่า" ทั้งนี้ปัญหาอาจจะเป็นได้ทั้งในทางเหตุผลและอารมณ์ของลูกค้า

3. คุณสมบัติและประโยชน์ของสินค้าหรือบริการ

สิ่งนี้คงขาดไม่ได้คุณคงรู้อยู่แล้ว บอกไปเลยว่าสินค้าหรือบริการของคุณดีอย่างไร ทำไมพวกเขาถึงต้องซื้อมัน ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มีคุณสมบัติหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ประโยชน์ทำให้คุณสามารถดูหนัง หรือเล่นเกมได้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น

4. ความน่าเชื่อถือ

สินค้าหรือบริการบางชนิดจำเป็นต้องมีความน่าเชื่อถือ ก่อนที่ลูกค้าจะกล้าตัดสินใจจ่ายเงินให้กับเรา เราสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้หลายวีธี ตัวอย่างเช่น การนำรีวิวจากลูกค้ามาพูดถึง, การอ้างอิงบุคคลหรือองค์กรที่เป็นที่่รู้จัก, การรับประกัน หรือสิทธิในการเปลี่ยนหรือคืนเงิน

5. หลักฐานความสำเร็จของสินค้าหรือบริการ

สำหรับลูกค้า สินค้าหรือบริการบางชนิดจำเป็นต้องมีผลลัพธ์มาเป็นสิ่งยืนยันว่าสินค้าหรือบริการนั้น ๆ จะทำหน้าที่ของมันให้บรรลุได้จริง ๆ ตัวอย่างเช่น อาหารเสริมช่วยลดน้ำหนักบางแบรนด์นำลูกค้าที่ทานอาหารเสริมมาเป็นเครื่องยืนยันว่าสินค้าของพวกเขาทำได้อย่างที่กล่าวมา

6. ให้เหตุผลว่าทำไมพวกเขาควรตัดสินใจตอนนี้

บางสินค้าหรือบริการลูกค้ามักจะติดสินใจนาน โดยเฉพาะสินค้าราคาสูง ๆ เราจึงควรที่จะให้เหตุผลกับลูกค้าให้ตัดสินใจโดยทันที ก่อนที่พวกเขาจะไปหาข้อมูลของเจ้าอื่น ทำให้เรามีโอกาสที่จะเสียลูกค้าไปในที่สุด ตัวอย่างเช่น สินค้ามีจำนวนจำกัด หรือ โปรโมชั่นสำหรับ 50 ท่านแรกเท่านั้น เป็นต้น แนะนำอ่านต่อ หลักการทําโปรโมชั่นช่วยเพิ่มยอดขาย(พร้อม 12 ตัวอย่าง)

7. ให้เหตุผลว่าจะพลาดอะไรถ้าไม่เลือกเรา

เรามั่นใจว่าสินค้าหรือบริการเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างแน่นอน บอกกับลูกค้าให้พวกเขาตระหนักว่าถ้าพวกเขายังปล่อยให้ปัญหาพวกนั้นอยู่ต่อไป จะส่งผลร้ายมากน้อยเพียงใดต่อพวกเขา และในทางกลับกัน เมื่อพวกเขาตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการเราแล้ว ชีวิตเขาจะดีขึ้นมากน้อยเพียงใด รวมทั้งการเลือกเจ้าอื่นแทนที่จะเลือกเรา

8. บอกสิ่งที่คุณต้องการให้ลูกค้าทำ

สุดท้ายนี้อย่าลืมบอกสิ่งที่คุณต้องการให้พวกเขาทำ หลังจากที่คุณพยายามโน้มนาวพวกเขาด้วยเหตุผลและอารมณ์ ยกตัวอย่างเช่น สั่งซื้อ, ลงทะเบียน, สั่งจอง, ติดต่อ หรือทักแชท ทั้งนี้อย่าลืมแจ้งวิธีการชำระเงิน หรือวิธีการลงทะเบียน ขึ้นอยู่กับคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไร หากวิธีการนั้น ๆ ค่อนข้างยากหรือซับซ้อน มันก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าหนีได้

การสื่อสารที่ดีเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้คุณสามารถสร้างยอดขายได้ อย่าลืมมองหาปัญหาหรือข้อผิดพลาดในปัจจัยอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน หากชอบคอนเทนต์แบบนี้ฝากกดแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสนุกกับการทำธุรกิจแล้วเติบโตไปด้วยกัน

บทความนี้มีประโยชน์
มากน้อยเพียงใด ?
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

บทความแนะนำ

ดูบทความทั้งหมด →

STP คืออะไร วิธีใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำตลาดพร้อมตัวอย่าง

เสื้อไซต์เดียวไม่สามารถทำให้ใส่ได้ทุกคน การเลือกกลุ่มเป้าหมายในตลาดเพื่อขายสินค้าและบริการก็เช่นเดียวกัน STP Marketing จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ความเหมาะสมระหว่างสินค้าและบริการกับกลุ่มเป้าหมาย

อ่านต่อ →

TOWS Matrix คืออะไร ช่วยคุณวางกลยุทธ์ให้ดีขึ้นได้อย่างไร

หากคุณค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลมาแล้วไม่สามารถนำมาวางกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจว่าครอบคลุมทุกมุมมอง TOWS Matrix จะมาช่วยวางกลยุทธ์ได้อย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น

อ่านต่อ →

Vision, Mission, Value คืออะไร ถ้าไม่มีจะส่งผลกับธุรกิจอย่างไร

ปัญหาหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นกับธุรกิจจากการมีทิศทางขององค์กรไม่ชัดเจน การสร้าง Vision, Mission, Value ขององค์กรของคุณจะช่วยประหยัดทรัพยากรณ์และลดข้อผิดพลาดได้ในระยะยาว

อ่านต่อ →
The spidery

บริษัทการตลาดออนไลน์ที่ดูแลคุณแบบครบรอบด้าน ช่วยธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วและคุ้มค่ากว่าที่เคย

©Copyright 2024 by The Spidery. All rights reserved  Privacy Policy Cookie Setting